ข่าวสาร

790x442.jpg

ผลสำรวจความคิดเห็นประเด็นธุรกิจ เรื่อง ทัศนคติ พฤติกรรม และการใช้จ่ายของผู้บริโภค ในช่วงวันวาเลนไทน์และตรุษจีน

วันที่เผยแพร่ 08 ก.พ. 2561


ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึง ผลสำรวจความคิดเห็นประเด็นธุรกิจ เรื่อง ทัศนคติ พฤติกรรม และการใช้จ่ายของผู้บริโภค ในช่วงวันวาเลนไทน์ พบว่า คนส่วนใหญ่ร้อยละ 41.1 เห็นว่า วันวาเลนไทน์ปีนี้ มีความคึกคักมากกว่าปีก่อน เพราะคาดหวังว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้น มีสถานที่ท่องเที่ยวมากขึ้น มีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ในขณะที่ ร้อยละ 29.1 มองว่า บรรยากาศคึกคักน้อยลง เพราะเศรษฐกิจแย่ลง และราคาสินค้าแพงขึ้น โดยพบว่าเงินสะพัดในช่วงวันวาเลนไทน์ปีนี้ อยู่ที่ 3,822.27 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.10 หรือเฉลี่ยค่าใช้จ่ายคนละ 2,394.80 บาท จากการซื้อดอกไม้ เดินห้าง ซื้อของขวัญ ท่องเที่ยวในประเทศ ซื้อช็อกโกแลต ไปทานข้าวนอกบ้าน เป็นต้น โดยใช้เงินจากเงินเดือนมากที่สุด รองลงมาเป็นเงินออม โดยมีความคาดหวังว่าจะได้รับดอกไม้ในวันวาเลนไทน์มากที่สุด รองลงมาเป็นการบอกรัก และการได้รับของขวัญ

          

สำหรับ พฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลตรุษจีนในปีนี้ พบว่า จากการสำรวจตัวอย่าง 1,200 ตัวอย่างทั่วประเทศ พบว่ามีเงินสะพัดสูงถึง 56,860.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่ 54,927.16 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ3.52 ทั้งนี้จากการสำรวจยังพบว่าร้อยละ 63.0 มองว่าบรรยากาศจะคึกคักกว่าปีที่ผ่านมา และร้อยละ 24.4 มองว่าจะคึกคักเท่ากับปีที่ผ่านมา และร้อยละ 12.6 คึกคักน้อยกว่าปีที่ผ่านมา สำหรับสิ่งที่ประชาชนเป็นห่วงในช่วงเทศกาลตรุษจีนนั้นคือ การขึ้นราคาสินค้าที่จำเป็นในช่วงเทศกาล การจี้/ล้วงกระเป๋า ปล้น และขโมย การเกิดอัคคีภัย อุบัติเหตุในท้องถนน ส่วนพรที่ประชาชนต้องการคือ ร่ำรวยเงินทอง ประสบความสำเร็จในทุกสิ่งที่ต้องการ ทุกคนในครอบครัวมีสุขภาพแข็งแรง อายุยืน มีความรัก ความสามัคคี



 ภาพประกอบ