ข่าวสาร

790x442.jpg

สรุปการประเมินการค้า การลงทุนใน CLMV หลังปี 58 และอีก 5 ปีข้างหน้า

วันที่เผยแพร่ 31 พ.ค. 2561


สรุปการประเมินการค้า การลงทุนใน CLMV หลังปี 58 และอีก 5 ปีข้างหน้า

ประเทศในอาเซียนมีบทบาทสำคัญทางเศรษฐกิจมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี พ.ศ. 2559 ที่ผ่านมา 6 ประเทศอาเซียนเดิมมีการเติบโตทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น 1.6 เท่า ในขณะที่ประเทศในกลุ่ม CLMV มีการเติบโตทางเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้นถึง 2.4 เท่า ส่งผลให้ตลาด CLMV เป็นตลาดที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ในระดับจากสูง และมีการเติบโตจากต่อเนื่อง จึงเป็นตลาดที่ถูกหมายปองจากประเทศทั้งในและนอกอาเซียน ซึ่งศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศคาดการณ์ว่า ในปี 2565 GDP ของกลุ่ม CLMV จะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.2 จากปี 2558 มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 223 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่อาเซียนเก่าเพิ่มขึ้น 1,106.40 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยจะมี GDP เฉลี่ยของ CLMV อยู่ที่ 6.8 ส่วนอาเซียนเดิมอยู่ที่ 4.5 สำหรับในด้านการค้า หลังจากที่อาเซียนได้มีการลดภาษีเป็น 0% ส่งผลให้สัดส่วนการค้าระหว่างอาเซียนด้วยกันเองลดลง แต่สัดส่วนการค้าของประเทศนอกอาเซียนเพิ่มมากขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากกำลังซื้อจากภายนอกประเทศที่มีสูงกว่า รวมถึงมาตรการทางการค้าที่ไม่ใช่มาตรการทางภาษีศุลกากร ที่ส่งผลกระทบร่วมด้วย ซึ่งจะสามารถเชื่อมโยงไปถึงการคาดการณ์ว่าในช่วง 5 ปี ข้างหน้า จีนจะมีบทบาททางการค้าเพิ่มขึ้นในเมียนมา ขณะที่เกาหลีใต้จะมีบทบาททางการค้าเพิ่มมากขึ้นในเวียดนาม ส่วนไทยจะยังคงครองส่วนแบ่งตลาดในลาวและกัมพูชา ในด้านการลงทุน ประเทศที่มีการลงทุนโดยตรง (FDI) จากต่างประเทศมากที่สุดในปี 2559 คือ สิงคโปร์ มาลเซีย และเวียดนาม ตามลำดับ และคาดว่าในปี 2565 สิงคโปร์จะยังคงครองแชมป์ FDI ของอาเซียน ซึ่งประเทศดาวรุ่งที่ดึงดูดการลงทุนคือ เวียดนาม ตามมาคือมาเลเซียที่ยังคงรักษา FDI ในระดับคงที่


 ภาพประกอบ