
หอการค้าไทยเชิญ 6 พรรคใหญ่...ดีเบตนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
วันที่เผยแพร่ 13 มี.ค. 2562
หอการค้าไทยเชิญ 6 พรรคการเมืองร่วมตอบข้อซักถามในหัวข้อ “แนวทางขับเคลื่อนในเรื่องต่างๆ ที่ภาคประชาชนและภาคเอกชนให้ความสนใจ” ณ หอประชุม มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ถนนวิภาวดีรังสิต โดยมีตัวแทนพรรคการเมืองทั้ง 6 พรรค ดังนี้
- พรรคประชาธิปัตย์ โดย คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
- พรรคชาติพัฒนา โดย คุณสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา
- พรรคพลังประชารัฐ โดย ดร.อุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ
- พรรคเพื่อไทย โดย ดร.โภคิน พลกุล กรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย
- พรรคภูมิใจไทย โดย คุณอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย
- พรรคอนาคตใหม่ โดย ดร. วีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร ที่ปรึกษาทางด้านเศรษฐกิจพรรคฯ
นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ระบุต้องขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยการพัฒนาแรงงานภาคอุตสาหกรรม ให้สอดคล้องการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก ที่นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ดำเนินธุรกิจ โดยเพิ่มทักษะฝีมือและความชำนาญทั้งในเชิงคุณภาพและมาตรฐานแรงงานไทย ให้สอดรับกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรมอย่างแท้จริง
นายโภคิน พลกุล กรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย เผยรัฐบาลจะต้องช่วยสร้างระบบสร้างสิ่งแวดล้อมให้เอื้อ ต่อคนตัวเล็ก เอสเอ็มอี ให้เข้าถึงไอที พร้อมกับใช้กลไกสถาบันการเงินรัฐ เติมทุนเติมสินเชื่อ และความรู้เพื่อใช้เงินให้เกิดประโยชน์ พร้อมจะกิโยตินกฎหมายที่เป็นอุปสรรค กระจายอำนาจเชิงภารกิจและทุน ให้ท้องถิ่นมากขึ้น ตั้งเป้ายกระดับนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มรายได้เป็น 3 ล้านล้านบาท
นายวีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร พรรคอนาคตใหม่ เน้นให้สร้างระบบรางรถไฟ มีเส้นทางการคมนาคมที่ครอบคลุมโยงใยทั่วประเทศ และทำลายทุนผูกขาดในประเทศไทย ด้วยการแก้กฎหมายที่เอื้อให้เกิดการผูกขาด กระจายอำนาจท้องถิ่น และเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ ด้วยการเปิดใบอนุญาตธนาคารเพิ่มขึ้น ให้ธนาคารไปตั้งสำนักงานใหญ่ต่างจังหวัด
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ย้ำการลงทุนในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี จะช่วยยกระดับภาคอุตสาหกรรมได้ทั้งอุตสาหกรรมแปรรูป การยกระดับสินค้าชุมชน ช่วยเพิ่มรายได้และกระจายความเจริญไปยังพื้นที่ต่างๆ ไม่ใช่กระจุกตัวในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล พร้อมลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ต้องมีระบบสวัสดิการที่ดี การประกันรายได้เกษตรกร
นอกจากนี้ยังมีการจัดดีเบตส่องนโยบายพลังงาน โดยกลุ่มปฏิรูปพลังงานเพื่อความยั่งยืน ซึ่งทุกพรรคส่งเสริมทิศทางพลังงานทดแทน และเห็นว่า ปตท.รัฐวิสาหกิจด้านพลังงาน ควรจะเป็นแกนหลักส่งเสริม โดยพรรคภูมิใจไทยส่งเสริมพืชพลังงานนำปาล์มมาผลิตไฟฟ้า ให้ ปตท.ทำหน้าที่ส่งเสริมพืชพลังงานเพิ่มปีละ 25% จนครบ 100% ใน 4 ปี โดยพรรคพลังธรรมใหม่ เสนอตั้งบรรษัทพลังงานแห่งชาติมาดูแลพลังงาน ลดราคาน้ำมัน 5 บาท ยกเลิกสัญญาสัมปทานปิโตรเลียมที่ไม่เป็นธรรม / พรรคอนาคตใหม่ เห็นว่า ไม่ต้องตั้งบรรษัทพลังงานแห่งชาติ แต่หากมีปัญหาก็แก้ไขการกำกับดูแล เน้นขนส่งสาธารณะ อาคารประหยัดพลังงาน และไม่เห็นด้วยอุดหนุนราคาพลังงาน / พรรคพลังประชารัฐส่งเสริมกลไกตลาด พลังงานทดแทน และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ เน้นให้ ปตท.และ ปตท.สผ.ดูแลความมั่นคงดูแลราคาพลังงาน ดูแลดีเซลไม่เกิน 30 บาท/ลิตร ดูแลราคาแอลพีจี ซึ่งในส่วนของปาล์มจะต้องประกันราคา 4 บาท/กก.โดยนำมาผลิตไฟฟ้าและไบโอดีเซลบี 7.-
รับชมย้อนหลังได้ที่ : https://youtu.be/iaW9IqA_AHU
เนื้อหาข่าว : สำนักข่าวไทย
ภาพข่าว : สื่อสารองค์กร หอการค้าไทย