![790x442.jpg](https://webdata.thaichamber.org/public/upload/images/news/790x442.jpg)
แถลงข่าวผลกระทบจากสงครามการค้าสหรัฐอเมริกา – จีน ต่อประเทศไทย
วันที่เผยแพร่ 24 เม.ย. 2561
แถลงข่าว : ผลกระทบจากสงครามการค้าสหรัฐอเมริกา – จีน ต่อประเทศไทย
ในปี 2560 สหรัฐอเมริกาขาดดุลการค้ากับจีนมากที่สุด รองลงมาคือ แม็กซิโก ญี่ปุ่น เยอรมัน ส่วนในอาเซียน 3 ประเทศที่สหรัฐฯขาดดุลการค้าด้วยได้แก่ เวียดนาม มาเลเซีย และประเทศไทย ในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา (2551-2560) สหรัฐฯขาดดุลการค้ามาโดยตลอด โดยเฉพาะขาดดุลการค้ากับจีนที่เพิ่มขึ้น 43.03% หรือขาดดุลเพิ่มขึ้น 4.62% ต่อปี ซึ่งกลุ่มสินค้าที่มีมูลค่าและสัดส่วนของการขาดดุลมากที่สุดได้แก่ กลุ่มเครื่องจักร เครื่องใช้ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ เฟอร์นิเจอร์ เครื่องแต่งกาย และ เหล็กและผลิตภัณฑ์จากเหล็ก เป็นต้น
สำหรับประเทศไทยตั้งแต่ปี 2551-2560ไทยได้เกินดุลการค้ากับสหรัฐฯเพิ่มขึ้น 3.01% ต่อปี แต่กับจีน ไทยได้ขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้น 47.29% ต่อปี ส่วนการพึ่งพาวัตถุดิบจากประเทศไทยของสหรัฐอเมริกากับจีนนั้น เมื่อเทียบสัดส่วนแล้ว สินค้าที่อเมริกาขึ้นภาษีกับจีน จีนมีการพึ่งพาวัตถุดิบจากไทยน้อยมากเฉลี่ย 0.2% ส่วนสินค้าที่จีนขึ้นภาษีกับสหรัฐอเมริกา สหรัฐอเมริกามีการพึ่งพาวัตถุดิบจากไทยน้อยมากเช่นกัน เฉลี่ย 0.1% จากสงครามการค้าสหรัฐอเมริกา-จีน ส่งผลให้ไทยมีมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้น 8,072 ถึง 20,180 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 0.10 ถึง 0.25 ของมูลค่าการส่งออกของไทย และไทยมี GDP เพิ่มขึ้น 2,022 ถึง 5,056 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 0.01 ถึง 0.04 ของ GDP ไทย
ทั้งนี้ ศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ ได้มีข้อเสนอแนะถึงสถานการณ์ดังกล่าวใน 3 ประเด็นด้วยกัน ได้แก่ 1. สร้างห่วงโซ่การผลิตของจีนกับสหรัฐ ให้เพิ่มขึ้นมากกว่าที่เป็นอยู่ปัจจุบัน 2.สร้างความร่วมมือทางการค้ากับสหรัฐ เช่น FTA ไทย-สหรัฐฯ ภายใต้ผลประโยชน์ของประเทศ และ 3.ผลักดัน rcep หรือ asean+6 ให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น